วันอังคารที่ 6 กันยายน พ.ศ. 2559

เอเซอร์ จับมือ 3 พันธมิตร สร้างโอกาสทางธุรกิจจากกีฬา E-Sport SMB สามารถสร้างอาชีพใหม่ได้ ด้วยธุรกิจ Acer Predator Arena

กรุงเทพฯ--25 ก.ย.--พีซี แอนด์ แอสโซซิเอทส์ คอนซัลติ้ง
บริษัท เอเซอร์ คอมพิวเตอร์ จำกัด จับมือ 3 พันธมิตรชั้นนำ ชู๊ตเตอร์ AMD และ Cafe Thai นำเสนอแพลตฟอร์มทางธุรกิจต่อยอดจากประสบการณ์กีฬา E-Sport ด้วย Acer Predator Arena แพลตฟอร์มสำเร็จรูป เริ่มธุรกิจได้ทันที

นายนิธิพัทธ์ ประวีณวงศ์วุฒิ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท เอเซอร์ คอมพิวเตอร์ จำกัด กล่าวว่า Acer Predator Arena เป็นแพลตฟอร์มสำหรับผู้ประกอบการ E-Sport Arena เป็นการเปิดโอกาสให้แก่กลุ่มสตาร์ทอัพสู่การเป็นเจ้าของกิจการด้วยเงินลงทุนที่สามารถเลือกขนาดของกิจการได้ ซึ่งจากการศึกษาความต้องการของธุรกิจกลุ่มนี้ พบว่าปัญหาเริ่มต้นคือผู้ประกอบการต้องการที่ปรึกษา ทั้งในเรื่องของการวางแผน การออกแบบ การติดตั้งระบบเน็ตเวิร์ค ซอฟต์แวร์ต่างๆ ไปจนถึงที่ปรึกษาในเวลาที่อุปกรณ์ในธุรกิจมีปัญหา Acer Predator Arena เป็นการนำจุดแข็งที่เอเซอร์มี ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของ ฮาร์ดแวร์ การบริการทั้งก่อนและหลังการขาย ร่วมกับ ชู๊ตเตอร์ (Shooter) ที่มีความเชี่ยวชาญในการติดตั้งระบบ เอเอ็มดี (AMD) ผู้สร้างสรรค์นวัตกรรมการประมวลผล และ คาเฟ่ไทย (Cafe Thai) ผู้ให้บริการซอฟต์แวร์ในการบริหาร มาผนวกเป็นอีโคซิสเต็มสู่แพลตฟอร์มที่ครอบคลุมทุกความต้องการ ผู้ประกอบการสามารถมั่นใจได้ว่าการดำเนินธุรกิจของผู้ลงทุนจะคุ้มค่า ได้รับการดูแลอย่างครอบคลุม โดยจะมีแพกเกจให้ผู้ประกอบการได้เลือกขนาดของกิจการเริ่มต้นตั้งแต่ 350,000 บาท[1] สำหรับผู้ที่สนใจเป็นเจ้าของธุรกิจกับแพลตฟอร์ม Acer Predator Arena สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ 086-663-3337 หรือ www.acer4u.in.th

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/prg/2259256

Creative ปล่อยลำโพงบลูทูธ Sound Blaster FRee เบสหนัก พลังเสียงรอบทิศทาง 360 องศา

กรุงเทพฯ--29 ก.ย.--อีเทอร์นอล เอเซีย ดิสทริบิวชั่น (ไทยแลนด์)
บริษัท อีเทอร์นอล เอเชีย ดิสทริบิวชั่น (ประเทศไทย) ผู้จัดจำหน่าย เครื่องเสียง ลำโพง หูฟัง แบรนด์ Creative รุ่น SoundBlaster FRee สู่ตลาดแล้ววันนี้ Creative ได้มีการสร้างสรรค์ผลิตใหม่อย่างต่อเนื่อง ลาสุดได้ออกลำโพงรุ่นใหม่ กับลำโพงบลูทูธ ทรงกระบอก รูปทรงกะทัดรัด พกพาง่าย Creative Sound Blaster FRee เป็นลำโพงพกพาที่เชื่อมต่อไร้สายผ่านบลูทูธ เวอร์ชั่น 4.0 ได้รับมาตราฐาน IPX4 ซึ่งสามารถป้องกันน้ำได้ในระดับละอองน้ำ มีแบตเตอรี่แบบชาร์จไฟในตัวสามารถเล่นได้นาน 10 ชม. และมีไมโครโฟนในตัวพร้อมระบบ Noise Cancelling สำหรับสนทนาเมื่อมีสายโทรศัพน์เรียกเข้า นอกจากนั้นยังมีช่องเสียบแผ่น MicroSD Card ขนาด 32GB สำหรับเล่นเพลง MP3 และรองรับการเชื่อมต่อ AUX แบบ Mini Jack 3.5mm.ตัวลำโพงมีขนาด 71.1 x 200.8 x 68.5 mm

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/prg/2261989

แคนนอนเปิดตัว “EOS C300 Mark II”กล้องถ่ายภาพยนตร์ 4K ใหม่ อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/prg/2262532

กล้องถ่ายภาพยนตร์ดิจิตอล Canon EOS C300 Mark II พัฒนาต่อยอดเป็นพิเศษมาจากกล้องรุ่น EOS C300 ที่หลังจากเปิดตัวมาในเดือนมกราคม 2555 ก็ได้รับเสียงชื่มชมอย่างมากจากผู้ใช้มืออาชีพทั้งในวงการภาพยนตร์ สื่อโทรทัศน์ และอุตสาหกรรมโปรดักชั่นงานวิดีโอต่างๆ กล้อง EOS C300 Mark II รุ่นใหม่ครบครันด้วยฟีเจอร์ใช้งานหลากหลายซึ่งมีคุณสมบัติน่าประทับใจ อาทิ เซ็นเซอร์ CMOS และเทคโนโลยีถ่ายภาพพัฒนาใหม่ล่าสุดจากแคนนอน ที่ช่วยปรับปรุงประสิทธิภาพใช้งานให้เหนือชั้นยิ่งกว่าเดิม รองรับการถ่ายวิดีโอความคมชัดระดับ 4K และมีช่วงไดนามิคกว้างขึ้นช่วยให้ได้ชิ้นงานคุณภาพสูงในทุกสถานการณ์

กล้อง EOS C300 Mark II ติดตั้งเซ็นเซอร์ CMOS ความละเอียด 8.85 ล้านพิกเซล เทียบเท่า Super 35 มม. ซึ่งแคนนอนพัฒนาขึ้นเป็นพิเศษ พร้อมกับชิปประมวลผลภาพ Dual DIGIC DV 5 ใหม่ล่าสุดจากแคนนอน จึงสามารถบันทึกวิดีโอความคมชัดระดับ 4K ให้ภาพสวยงามโดดเด่นไม่เหมือนใคร และนอกจากจะมาพร้อมกับระบบ Canon Log 2 ใหม่เอกสิทธิ์เฉพาะของแคนนอน ตัวกล้องยังรองรับการบันทึกวิดีโอในรูปแบบ XF-AVC เพื่อให้การใช้งานในช่วงไดนามิคที่กว้างกว่าเดิมทำได้ดียิ่งขึ้นเมื่อเทียบกับกล้องรุ่นก่อนหน้า ทั้งนี้ ตัวกล้องสามารถเก็บบันทึกทุกรายละเอียดภาพได้เสมือนจริง โดยไม่ทำให้ภาพเกิดปัญหาขาวสว่าง (overexposure) หรือมืดดำ (underexposure) มากเกินไป แม้จะใช้งานในสภาพแวดล้อมที่มีสภาพแสงแตกต่างกันสูงรวมอยู่ในฉากเดียวกันก็ตาม เช่น การถ่ายภาพจากภายในอาคารที่มืดมิดซึ่งมีแสงสว่างจ้าลอดเข้ามาทางหน้าต่าง

และเมื่อนำไปใช้งานร่วมกับเลนส์แคนนอนตระกูล EF1 เทคโนโลยี Dual Pixel CMOS AF ใน EOS C300 Mark II ยังช่วยให้กล้องใช้งานระบบออโต้โฟกัสแบบต่อเนื่องได้ โดยกล้องจะทำการโฟกัสอัตโนมัติวัตถุที่อยู่ในรัศมีตลอดเวลา ซึ่งครอบคลุมพื้นที่ถึง 80% ของจอภาพทั้งหมด (ทั้งในแนวตั้งและแนวนอน) นอกจากนี้ยังมีฟังก์ชั่นโฟกัสอัตโนมัติขั้นสูงอื่นๆ ให้เลือกใช้งานได้ตามความต้องการอีกมากมาย อาทิ ระบบออโต้โฟกัสแบบตรวจจับใบหน้าซึ่งสามารถเปิดใช้งานร่วมกับระบบออโต้โฟกัสแบบต่อเนื่องได้ ช่วยให้ผู้ใช้ปรับแต่งรูปแบบการโฟกัสได้รวดเร็วตามสไตล์การถ่ายภาพที่ต้องการ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในโหมดวิดีโอความคมชัดระดับ 4K ที่ต้องอาศัยความแม่นยำในการจับโฟกัสสูง

กล้อง EOS C300 Mark II รองรับการบันทึกวิดีโอในรูปแบบ XF-AVC เอกสิทธิ์ใหม่เฉพาะจากแคนนอน ทำให้มีอัตราการบีบอัดข้อมูลสูงช่วยให้ข้อมูลมีขนาดเล็กลงโดยไม่สูญเสียคุณภาพ ช่วยประหยัดพื้นที่การบันทึกไฟล์วิดีโอคุณภาพสูงไม่ว่าจะเป็นระดับ 4K, 2K และ HD ลงในเมมโมรีการ์ดได้ทั้งแบบ CFast และแบบ SD ช่วยยกระดับเวิร์คโฟลว์ในทุกขั้นการผลิตงานวิดีโอคุณภาพระดับ 4K ตั้งแต่การถ่ายภาพไปจนถึงขั้นตอนการตัดต่อแก้ไขภาพ

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/prg/2262532

กรีดกล่อง 'ไอแพด โปร' แกะแท็บเล็ตไซส์ 12.9 นิ้ว เด็ดสุดของแอปเปิลมีดีที่อะไร!

แกะกล่องแท็บเล็ตรุ่นล่าสุดของแอปเปิล "iPad Pro" พร้อมชมรายละเอียดเกี่ยวกับเทคโนโลยีที่ผู้พัฒนาภูมิใจ โดดเด่นด้วยประสิทธิภาพ รองรับการใช้งานได้เต็มรูปแบบ...

เรียกว่าสร้างเสียงฮือฮาตั้งแต่งานเปิดตัวก็ว่าได้... สำหรับ "ไอแพด โปร" แท็บเล็ตไซส์ใหญ่ของแอปเปิล จากความแตกต่างด้านขนาด การใช้งาน รวมถึงอุปกรณ์เสริม ทำให้เกิดความสงสัยว่าเทคโนโลยีที่ถูกใส่มาในเครื่องนั้น จะสามารถรองรับการใช้งานที่แตกต่างไปจากแท็บเล็ตรูปแบบเดิมได้จริงหรือ?

"ไทยรัฐออนไลน์" จะพาคุณไขข้อสงสัยเหล่านั้นไปพร้อมกัน เรียกว่า...ทำความรู้จักและสร้างความคุ้นเคยกับไอแพด โปร ตั้งแต่ขั้นตอนการแกะกล่อง เพื่อค้นหาความสวยและเทคโนโลยีที่ทันสมัยจากแท็บเล็ตเครื่องนี้ พร้อมข้อมูลเชิงเทคนิคที่ได้รับการอธิบายจากผู้เชี่ยวชาญด้านผลิตภัณฑ์ไอแพดของแอปเปิล กับอุปกรณ์ที่แอปเปิลยกย่องว่าดีที่สุดในตระกูลไอแพดซึ่งถูกพัฒนาออกมาเป็นตัวเลือกให้กับผู้บริโภค ผ่านมุมมองการถ่ายทอดด้วยประสิทธิภาพของพี่น้องร่วมแบรนด์แอปเปิลอย่างไอโฟน 6เอส พลัส ขอเชิญทำความรู้จักไอแพด โปร ไปพร้อมกัน...!
หน่วยประมวลผลทรงพลัง... ไอแพด โปร ใช้ชิปรุ่นที่ 3 ซึ่งมาในชื่อ A9X จึงสามารถให้ประสิทธิภาพที่ดีกว่าไอแพด แอร์ 2 ถึง 80% และยังมีความงดงามลื่นไหลมากกว่า



อ่านข่าวต่อได้ที่: http://www.thairath.co.th/content/541777

เจาะ! แอปเปิล วอตช์ ภารกิจรักสุขภาพ อะจริงซิ!

"แกะกล่อง IT" พาไปทำความรู้จักกับคุณสมบัติของ "Apple Watch" ที่เน้นตอบโจทย์สุขภาพและการออกกำลังกาย หลังจากอัพเดตซอฟต์แวร์เวอร์ชั่น 2.0…

จากวัตถุประสงค์ที่ต้องการส่ง "แอปเปิล วอตช์" มาตอบโจทย์การใช้งานระหว่างวัน ภายใต้ความสามารถในการอำนวยความสะดวกและใช้งานได้ใกล้เคียงกับการใช้สมาร์ทโฟน เพียงแต่ย่อส่วนลงมาอยู่บนข้อมือจนกลายเป็นนาฬิกาอัจฉริยะ โดยแอปเปิลได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์ดังกล่าว แบ่งเป็น 3 รุ่น คือ วอตช์ สปอร์ต (Watch Sport), วอตช์ (Watch), วอตช์ อิดิชั่น (Watch Edition)

และแม้ว่าขณะนี้ เราจะเห็นผู้คนนิยมใส่นาฬิกาอัจฉริยะแพร่หลายขึ้น แต่ประโยชน์ส่วนใหญ่ก็เพื่อใช้คู่กับการออกกำลังกาย ซึ่งค่อนข้างแตกต่างจากประโยช์ของแอปเปิล วอตช์ และคู่แข่งอีกราย...ที่มุ่งเน้นการใช้งานทั้งด้านสื่อสารและเข้าถึงความบันเทิง แต่ล่าสุด ดูเหมือนแอปเปิลก็ไม่ได้ปฏิเสธเทรนด์การดูแลสุขภาพและการออกกำลังกาย เพราะซอฟต์แวร์เวอร์ชั่นล่าสุดอย่าง Watch OS 2.0 ที่เพิ่งปล่อยให้ผู้ใช้งานอัพเดตเมื่อไม่นานมานี้ ได้พัฒนาเพื่อรองรับการใช้งานร่วมกับการดูแลสุขภาพมากขึ้น
ภาพแรก เมื่อคุณแกะกล่องแอปเปิล วอตช์...


คอลัมน์ "แกะกล่อง IT by PRISM" รับอาสา พาคุณไปทำความรู้จักกับคุณสมบัติของแอปเปิล วอตช์ ที่ออกแบบมาเพื่อรองรับการใช้งานด้านสุขภาพ ว่าจะเป็นอย่างไรบ้าง

สำหรับการใช้งานเพื่อรองรับเรื่องการดูแลสุขภาพนั้น ซอฟต์แวร์เวอร์ชั่นนี้ได้เปิดโอกาสให้ผู้ให้บริการรายอื่นสามารถพัฒนาแอพพลิเคชั่นเพื่อให้บริการร่วมกับแอปเปิล วอตช์ ได้หลากหลายขึ้น จากเดิมที่ยังไม่เน้นด้านนี้มากนัก ทำให้เครื่องที่ได้อัพเดตซอฟต์แวร์ใหม่สามารถตอบโจทย์การใช้งานได้หลากหลาย ภายใต้การใช้งานด้วยกลไกหน้าปัด การแจ้งเตือน รวมถึงเซ็นเซอร์ และรูปแบบการใช้งานที่รองรับบนแอปเปิล วอตช์ และบนไอโฟน ไอแพด ร่วมด้วย

โดยรูปแบบการสนับสนุนด้านสุขภาพของแอปเปิล วอตช์นั้น สามารถแบ่งออกเป็น 3 รูปแบบหลัก คือ... 1.สมาร์ท แทร็คเกอร์ (Smart Tracker) ซึ่งใช้ประโยชน์ในการแจ้งเตือนให้ทำกิจกรรมต่างๆ ระหว่างวัน เช่น เตือนให้ยืนในทุกชั่วโมง เพื่อทำให้ผู้ใช้งานได้เปลี่ยนอิริยาบถ เป็นต้น 2.สร้างสมาธิได้มากขึ้น เช่น แอพช่วยฝึกลมหายใจ และ 3.ช่วยสนับสนุนการออกกำลังกาย ซึ่งสามารถรองรับแอพของผู้ให้บริการหลายรายที่มีแอพพลิเคชั่นด้านการออกกำลังกาย เช่น แอพสำหรับนักวิ่ง แอพสนับสนุนการปั่นจักรยาน เป็นต้น
นาฬิกาอัจฉริยะ ที่ให้ทั้งฟังก์ชั่นและแฟชั่น

หากคุณพร้อมจะทำความรู้จักแอพพลิเคชั่นต่างๆ เพื่อการสนับสนุนด้านสุขภาพบนแอปเปิล วอตช์ ในซอฟต์แวร์ 2.0 แล้ว ขอเชิญทำความรู้จักไปพร้อมๆ กัน...!

Waterminder : ดื่มน้ำอย่างเหมาะสม
แอพพลิเคชั่นนี้จะช่วยให้คุณสามารถดื่มน้ำได้เพียงพอกับความต้องการของร่างกาย เพราะสามารถเช็กได้ว่าผู้ใช้งานนั้นดื่มน้ำไปเท่าไหร่ในแต่ละวัน เหมาะสมหรือเพียงพอหรือยัง ทั้งยังสามารถเรียกดูประวัติการใช้งานได้สูงสุด 2 สัปดาห์ พร้อมตั้งให้แอพแจ้งเตือนให้ดื่มน้ำทุกชั่วโมงก็ได้

Streaks : สร้างสุขนิสัยที่ดีในการดูแลตัวเอง
เหมาะสำหรับผู้รักสุขอนามัยอย่างมาก เพราะแอพนี้สามารถแจ้งเตือนทุกๆ ชั่วโมง หรือแจ้งเตือนแบบนานๆ ครั้ง เพื่อให้คุณได้ดูแลสุขอนามัยของร่างกาย โดยสามารถเลือกพฤติกรรมที่ต้องการให้แจ้งเตือนได้เอง เช่น เตือนให้ใช้ไหมขัดฟันเพื่อรักษาความสะอาดของฟัน และยังสามารถเพิ่มพฤติกรรมอื่นๆ ได้จากการตั้งค่าแอพพลิเคชั่นบนไอโฟน

3 Minute Mindfulness : ฝึกลมหายใจได้ทุกที่ทุกเวลา
เรื่องของสมาธิถือเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่มนุษย์ควรฝึกฝน และแอปเปิล วอตช์ ก็ต้องการสนับสนุนให้ทุกคนสามารถปฏิบัติได้ทุกที่ทุกเวลา ผ่านกลไกหน้าปัดของแอปเปิล วอตช์ เช่น มีการสั่นเบาๆ 1 ครั้ง เพื่อแจ้งเตือนให้หายใจเข้า หรือสั่น 2 ครั้ง เพื่อแจ้งเตือนให้หายใจออก เป็นต้น โดยผู้ใช้งานสามารถปรับการตั้งค่าได้ตามที่ต้องการ ด้วยแนวคิดที่ว่าการกำหนดลมหายใจเพียง 3 นาทีต่อวัน ก็สามารถช่วยฝึกสมาธิได้ดียิ่งขึ้นแล้ว
เริ่มต้นการใช้งาน

วัดระดับการเต้นหัวใจ...คุณสมบัติที่หลายๆ คนต้องการจากอุปกรณ์สนับสนุนการออกกำลังกาย

Pocket Yoga : เพื่อคนรักโยคะ
นอกจากแอพนี้จะช่วยให้คุณสามารถฝึกโยคะได้แม้จะไม่ได้เสียเงินเข้าชั้นเรียนโยคะแล้ว ด้วยรูปแบบการใช้งานที่ถูกพัฒนาให้รองรับการแสดงผลและใช้งานได้ 2 หน้าจอ ทั้งบนแอปเปิล วอตช์ และไอโฟน ก็ยิ่งทำให้ผู้ใช้งานมีความสะดวกสบายยิ่งขึ้น เพราะสามารถเลือกควบคุมการใช้งานได้จากทั้ง 2 หน้าจอตามสะดวก ขณะเดียวกัน แอพดังกล่าวก็มีคำแนะนำพร้อมแจ้งเตือนว่าท่วงท่าต่อไปคืออะไร และต้องทำอย่างไร เป็นต้น

7 Minute Workout : เสมือนมีโค้ชติดตามตัว
เป็นอีกหนึ่งโปรแกรมเพื่อการออกกำลังกายที่น่าสนใจ เพราะแอพนี้ทำให้คุณสามารถเลือกจัดการกับรูปแบบการออกกำลังกายที่คุณต้องการได้ เช่น ต้องการออกกำลังกายแบบหนัก-เบา ต้องการโค้ชที่ให้คำแนะนำอย่างนุ่มนวลหรือดุดัน ภายใต้รูปแบบการออกกำลังกายใน 7 นาที

ยกตัวอย่างให้คุณเห็นภาพการใช้งานด้านสุขภาพบนแอปเปิล วอตช์ กันพอสังเขป แต่ไม่ได้หมายความว่ามีแอพพลิเคชั่นเกี่ยวกับการออกกำลังกาย หรือด้านสุขภาพเพียงเท่านี้ เพราะหลังจากอัพเดตซอฟต์แวร์เป็นเวอร์ชั่น 2.0 แล้ว แอปเปิล วอตช์ สามารถรองรับการใช้งานคู่กับแอพพลิเคชั่นจากผู้ให้บริการนับ 10 แอพ ซึ่งคาดว่าแอปเปิลจะขยายแนวโน้มการใช้งานดังกล่าวให้เพิ่มขึ้นอีกในอนาคต ซึ่งแอพพลิเคชั่นอื่นๆ ที่พร้อมให้บริการในขณะนี้ คือ Runtastic, Runkeeper, Lark, Lifesum, MyFitnessPal, Headspace, Gymaholic
หลากหลายแอพพลิเคชั่นที่แอปเปิล วอตช์ พยายามเพิ่มเติม เกี่ยวกับด้านสุขภาพ

อย่างไรก็ตาม สิ่งสำคัญในการใช้งานแอพพลิเคชั่นบนแอปเปิล วอตช์...ไม่ใช่เพียงการแจ้งเตือนหรือบันทึกข้อมูลการใช้งานในแต่ละวัน แต่แทบทุกแอพจะรวบรวมข้อมูลและเก็บรายละเอียดเอาไว้เป็นรายสัปดาห์อีกด้วย ตอบโจทย์ผู้ที่ต้องการดูสถิติหรือพัฒนาการในการออกกำลังกายของตนเอง หรือจะเลือกแชร์ข้อมูลต่างๆ ผ่านโซเชียลเน็ตเวิร์ก รวมถึงการแช่งชันกับเพื่อนที่ใช้แอปเปิล วอตช์ ซึ่งหลายๆ แอพเปิดโอกาสให้เชิญชวนเพื่อนมาร่วมแข่งขันดูแลตนเองหรือออกกำลังกายได้ ควบคู่กับคุณสมบัติสนับสนุนการใช้งานการสื่อสาร รวมถึงข้อมูลและความบันเทิงจากแอปเปิล วอตช์ ส่วนข้อด้อยที่หลายคนบอกว่ายังเป็นข้อจำกัดของแอปเปิล วอตช์นั้น อาจยังเป็นเรื่องของราคาที่แพงกว่าอุปกรณ์สำหรับสนับสนุนการออกกำลังกายโดยตรง หรือแม้แต่เรื่องของการใช้งานที่วอตช์เป็นทั้งเครื่องมือและแฟชั่นบนข้อมือ จึงไม่อาจจะใช้งานแบบสมบุกสมบันตอบโจทย์ผู้ที่ออกกำลังกายแบบหนักๆ ได้มากนัก

และไม่ว่าอย่างไร...การเลือกใช้งานอุปกรณ์ให้เหมาะกับความต้องการและการใช้งานจริง ถือเป็นเรื่องสำคัญกว่าที่คุณจะมองข้ามไปได้!!!